คาดว่าเงินทุนสนับสนุนโครงการคาสิโน-รีสอร์ทที่หลายคนรอคอยในโอซากะ ประเทศญี่ปุ่นของ MGM Resorts International จะอยู่ที่ 2,000-2,500 ล้านดอลลาร์ ตามการจัดอันดับของ S&P Global
สำนักงานจัดอันดับเครดิตระบุว่าสัดส่วนการถือหุ้นของ MGM ในโครงการนี้ไม่น่าจะเกิน 50% และสัดส่วนการถือหุ้นที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ 40% ของผู้ประกอบการคาสิโนและพันธมิตร Orix โดยที่ 20% ที่เหลือจะถูกควบคุมโดยนักลงทุนในท้องถิ่น ซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกของบริษัทเกมที่จะไม่ถือหุ้นส่วนใหญ่ในสถานที่ในญี่ปุ่น
จากต้นทุนการพัฒนาที่ประมาณไว้ 10,000 ล้านดอลลาร์และการคาดการณ์ของ MGM ว่าโครงการนี้จะได้รับเงินทุนที่ 55% ของหนี้ต่อทุน S&P กล่าวว่า “เงินทุนสนับสนุนของ MGM อาจอยู่ที่ 2,000-2,500 ล้านดอลลาร์ MGM เชื่อว่าเงินทุนสนับสนุนของบริษัทสามารถกระจายออกไปได้หลายปี อาจเป็นปี 2024-2026”
ความเสี่ยงสำหรับผู้ประกอบการ Bellagio ก็คืออาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่รีสอร์ทแบบบูรณาการในโอซาก้าจะได้รับเงินสนับสนุนจากเงินทุนเริ่มต้น ซึ่งหมายความว่า MGM อาจจะไม่สามารถสร้างกำไรได้ทันที ในทางกลับกัน ตามที่ S&P ชี้ให้เห็น โอซาก้าอาจจ่ายเงินปันผลระยะยาวให้กับ MGM และเสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานทางภูมิศาสตร์ของผู้ประกอบการ
แนวโน้มการใช้จ่ายของ MGM ในญี่ปุ่นและที่อื่นๆ
ในช่วงเวลาที่นักลงทุนเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ในทุกอุตสาหกรรมเก็บเงินสดไว้หรือจัดสรรเงินสดในลักษณะที่รอบคอบ ญี่ปุ่นอาจสนับสนุน MGM ก็ได้ ประการแรก กลุ่มบริษัทโอซาก้ายังไม่ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงปลายปีนี้ ดังนั้น MGM จึงไม่น่าจะใช้จ่ายจำนวนมากในญี่ปุ่นจนกว่าจะถึงปลายปี 2023 หรือปีหน้า
“จากไทม์ไลน์ปัจจุบันและความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะไม่ออกใบอนุญาตจนถึงปี 2023 เราไม่คาดว่าจะเริ่มมีการใช้จ่ายที่สำคัญก่อนปลายปี 2023 หรือ 2024” S&P กล่าวเสริม “โครงการนี้อาจใช้เวลาหลายปีจึงจะแล้วเสร็จ หากกลุ่ม MGM-Orix ได้รับใบอนุญาต MGM คาดว่าจะเปิดรีสอร์ทได้ในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้”
บริษัทวิจัยเน้นย้ำว่านิวยอร์กเป็นเขตอำนาจศาลอีกแห่งที่ MGM อาจถูกบังคับให้ใช้เงินจำนวนมากในระยะใกล้ถึงระยะกลาง เป็นที่คาดหวังกันอย่างกว้างขวางว่า Empire City ซึ่งเป็นคาสิโนสล็อตเท่านั้นในเมือง Yonkers จะได้รับใบอนุญาตคาสิโนหนึ่งในสามแห่งทางตอนใต้ของรัฐ บริษัทที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องให้คำมั่นสัญญาอย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการเกมและจำนวนเท่ากันสำหรับค่าธรรมเนียมใบอนุญาต
“MGM จะต้องชำระเงินค่าใบอนุญาต 500 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ แต่ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในปี 2024 และ 2025 MGM ประมาณการว่าการลงทุนเพื่อขยาย Empire City Casino อาจมีค่าใช้จ่าย 2,000-2,200 ล้านดอลลาร์ รวมถึงค่าธรรมเนียมใบอนุญาต” ตามข้อมูลของ S&P
เกรดเครดิตของ MGM
S&P ให้คะแนน MGM อยู่ที่ “B+” ซึ่งเป็นเกรดขยะ บริษัทวิจัยได้ขยายเกณฑ์การปรับลดอันดับเครดิตที่ปรับตามสัญญาเช่าจาก 6.5 เท่าเป็น 7.5 เท่า
“นอกจากนี้ เราคาดว่าบริษัทจะรักษาสภาพคล่องที่ดีอย่างน้อย 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงเงินสดและเงินสดหมุนเวียน บริษัทเชื่อว่าสิ่งนี้จะช่วยรองรับความผันผวนที่ภาระผูกพันสัญญาเช่าคงที่ในสหรัฐฯ อาจทำให้เกิดขึ้นได้”
เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่สาม สภาพคล่องของ MGM อยู่ที่ 6 พันล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมีงบดุลที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งในอุตสาหกรรม
